โรคของบรรพชิต(เล่ม35หน้า373)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย โรคของบรรพชิต๔อย่าง๔ อย่างเป็นไฉน คือ
๑.ภิกษุเป็นผู้มักมาก มีความร้อนใจอยู่เสมอ ไม่สันโดษด้วยจีวร, บิณฑบาต, เสนาสนะ, คิลานปัจจัยตามมีตามได้
๒.ภิกษุนั้นเมื่อเป็นผู้มักมาก มีความร้อนใจอยู่เสมอ
ไม่สันโดษด้วยจีวร, บิณฑบาต, เสนาสนะ, คิลานปัจจัยตามมีตามได้แล้ว ย่อมตั้งความปรารถนาลามก
เพื่อจะได้ความยกย่อง
เพื่อจะได้ลาภสักการะและความสรรเสริญ
๓.ภิกษุนั้น วิ่งเต้น ขวนขวาย พยายาม เพื่อจะได้ความยกย่อง เพื่อจะได้ลาภสักการะและความสรรเสริญ
๔.ภิกษุนั้น เข้าสู่ตระกูลเพื่อให้เขานับถือ
นั่งอยู่(ในตระกูล)เพื่อให้เขานับถือ
กล่าวธรรม(ในตระกูล)เพื่อให้เขานับถือ
กลั้นอุจจาระ ปัสสาวะอยู่(ในตระกูล)ก็เพื่อให้เขานับถือ
ภิกษุทั้งหลาย นี้แล โรคของบรรพชิต ๔ อย่าง
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 374
เพราะเหตุนั้น ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราทั้งหลายจักไม่เป็นผู้มักมาก
มีความร้อนใจ ไม่สันโดษด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะคิลานปัจจัยตามมีตามได้ จักไม่ตั้งความปรารถนาลามก
เพื่อจะได้ความยกย่องเพื่อจะได้ลาภสักการะและความสรรเสริญ จักไม่วิ่งเต้นขวนขวายพยายาม
เพื่อให้ได้ความยกย่อง เพื่อให้ได้ลาภสักการะและความสรรเสริญ จักเป็นผู้อดทน
ต่อ หนาว ร้อน หิว กระหาย
ต่อ สัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด และสัตว์เสือกคลานทั้งหลาย
ต่อ ถ้อยคำอันหยาบคายร้ายแรงต่าง ๆ
เป็นผู้อดกลั้นต่อเวทนาที่เกิดในกาย
อันเป็นทุกข์กล้าแข็งเผ็ดร้อนขมขึ้น ไม่เจริญใจพอจะปล้นชีวิตเสียได้
ภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
จบโรคสูตรที่ ๗
อรรถกถาโรคสูตร
พึงทราบวินิจฉัยในโรคสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า วิฆาตวา ได้แก่ ประกอบด้วยความร้อนใจคือทุกข์ มีความมักมากเป็นปัจจัย.
บทว่า อสนฺตุฏโฐ ได้แก่ เป็นผู้ไม่สันโดษ ด้วยสันโดษ๓ ในปัจจัย ๔.
บทว่า อนวญฺญปฏิลาภาย ได้แก่ เพื่อได้ความยกย่องจากผู้อื่น.
บทว่า ลาภสกฺการสิโลกปฏิลาภาย ได้แก่ เพื่อได้ลาภสักการะอันได้แก่ปัจจัย ๔
ที่เขาจัดไว้เป็นอย่างดี และความสรรเสริญ อันได้แก่การกล่าวยกย่อง.
บทว่า สงฺขาย กุลานิ อุปสงฺกมติ ได้แก่ เข้าไปสู่ตระกูลเพื่อรู้ว่า ชนเหล่านี้รู้จักเราไหม
แม้ในบทที่เหลือก็มีนัยนี้เหมือนกัน.
จบอรรถกถาโรคสูตรที่ ๗
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 375