ทางของคนเสื่อม. 46-309
[๓๐๔] ข้าพระองค์มา เพื่อจะทูลถามถึงผู้เสื่อม และคนผู้เจริญ
กะท่านพระโคดมจึงขอทูลถามว่า อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ ผู้รู้ชั่ว เป็นผู้เสื่อม
ผู้ใคร่ธรรม เป็นผู้เจริญ ผู้เกลียดธรรม เป็นผู้เสื่อม เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าขอพระองค์จงตรัสบอก คนเสื่อมที่ ๒ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนมี อสัตบุรุษเป็นที่รัก ไม่กระทำ สัตบุรุษให้เป็นที่รัก ชอบใจธรรมของ อสัตบุรุษ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้นแล เราจึงทราบข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๒.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๓ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนใด ชอบนอน ชอบคุย ไม่หมั่นเกียจคร้าน โกรธง่าย ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๓.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๔ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนใดสามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดาหรือบิดาผู้แก่เฒ่า ผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้นแลเราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๔.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 311
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๕ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนใดลวงสมณะพราหมณ์ หรือแม้ วณิพกอื่นด้วยมุสาวาท ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๕.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๖ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนมีทรัพย์มาก มีเงินทองของกินกินของอร่อยแต่ผู้เดียว ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๖.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๗ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนใดหยิ่งเพราะชาติ หยิ่งเพราะทรัพย์ และหยิ่งเพราะโคตร ย่อมดูหมิ่นญาติของตน ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่าความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๗.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 312
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๘ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนใดเป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลงสุรา และเป็นนักเลงการพนันผลาญทรัพย์ที่ตนหามาได้ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่าความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๘.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๙ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนไม่สันโดษด้วยภริยาของตนประทุษร้ายในภริยาของคนอื่นเหมือนประทุษร้ายในหญิงแพศยา ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้นแล เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่าความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๙.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๐ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
ชายแก่ได้หญิงรุ่นสาวมาเป็นภริยาย่อมนอนไม่หลับ เพราะความหึงหวงหญิงรุ่นสาวนั้น ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั้น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่าความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๐.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่๑๑ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
คนใดตั้งหญิงนักเลงสุรุ่ยสุร่าย หรือแม้ชายเช่นนั้นไว้ในความเป็นใหญ่ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม
เพราะเหตุนั่น เราจงทราบชัดข้อนี้เถิดว่า ความเสื่อมนั้นเป็นที่ ๑๑.
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระองค์จงตรัสบอกคนเสื่อมที่ ๑๒ อะไรเป็นทางของคนเสื่อม.
ก็บุคคลผู้เกิดในสกุลกษัตริย์ มีโภคทรัพย์น้อย มีความมักใหญ่ ปรารถนาราชสมบัติ ข้อนั้นเป็นทางของคนเสื่อม.
บัณฑิตผู้ถึงพร้อมด้วยความเห็นอันประเสริฐ พิจารณาเห็นคนเหล่านี้ เป็นผู้เสื่อมในโลก ท่านย่อมคบโลกที่เกษม (คนผู้เจริญ).
จบปราภวสูตรที่ ๖
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ 314