แม้พระปัจเจกโพธิสัตว์ ก็มีการบำเพ็ญถึง6ปี จึงบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า - คุยได้ฟังดีกับบรรดาสมาชิกวัด - กระดานสนทนาธรรม
กระดานสนทนาธรรม

ที่พักสงฆ์ป่าสามแยก บ้านห้วยยางทอง ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 67260


แม้พระปัจเจกโพธิสัตว์ ก็มีการบำเพ็ญถึง6ปี จึงบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๑ - หน้าที่ 341(เล่ม70หน้า341)
พรรณนาอีติคาถา
คาถาว่า อีติ จ ดังนี้เป็นต้น มีเรื่องเกิดขึ้นอย่างไร ?
ได้ยินว่า
หัวฝีเกิดขึ้นแก่พระเจ้าพาราณสี เวทนากล้าได้เพิ่มมากขึ้น หมอทั้งหลายทูลว่า เว้นสัตถกรรมการผ่าตัด จะไม่มีความผาสุก
พระราชาทรงให้อภัยหมอเหล่านั้น แล้วให้กระทำการผ่าตัด.
หมอเหล่านั้นผ่าหัวฝีนั้นแล้ว นำหนองและเลือดออกมา กระทำให้ไม่มีเวทนาแล้วเอาผ้าพันแผล. และ
ถวายคำแนะนำพระราชาใน (การเสวย) เนื้อและพระกระยาหารอันเศร้าหมอง.
พระราชาทรงมีพระสรีระซูบผอม เพราะโภชนะเศร้าหมอง. และหัวฝีของพระราชานั้นก็แห้งไป.

พระราชาทรงมีสัญญาว่าทรงผาสุก จึงเสวยพระกระยาหารอันสนิท. ด้วยเหตุนั้น จึงทรงเกิดพละกำลัง ทรงเสพเฉพาะในการเสพเท่านั้น.
หัวฝีของพระราชานั้นก็ถึงสภาวะอันมีในก่อนนั่นแหละ เมื่อเป็นอย่างนั้น พระองค์จึงให้ทำการผ่าตัดจนถึง ๓ ครั้ง
อันหมอทั้งหลายละเว้นแล้ว (จากการรักษา) จึงทรงเบื่อหน่าย ละราชสมบัติใหญ่ออกบวชเข้าป่า เริ่มวิปัสสนา ๖ พรรษา
ก็ทำให้แจ้งพระปัจเจกโพธิญาณ ได้กล่าวอุทานคาถานี้แล้วไปยังเงื้อมเขานันทมูลกะ.

ที่ชื่อว่า อีติ จัญไร ในคาถานั้น เพราะอรรถว่า มา.
คำว่า อีตินี้ เป็นชื่อของเหตุแห่งความฉิบหายอันเป็นส่วนแห่งอกุศลที่จรมา.
เพราะฉะนั้น แม้กามคุณเหล่านี้ก็ชื่อว่า จัญไร เพราะอรรถว่า นำมาซึ่งความฉิบหายมิใช่น้อย และเพราะอรรถว่า เป็นที่ประชุมอนัตถพินาศ.
แม้หัวฝีก็หลั่งของไม่สะอาดออกมา เป็นของบวมขึ้น แก่จัด และแตกออกเพราะฉะนั้น กามคุณเหล่านี้ จึงชื่อว่าดุจหัวฝี เพราะหลั่งของไม่สะอาด
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๑ - หน้าที่ 342
คือ กิเลสออกมา และเพราะมีภาวะบวมขึ้น แก่จัด และแตกออก โดยการเกิดขึ้น การคร่ำคร่า และแตกพังไป.
ชื่อว่าอุปัทวะ เพราะอรรถว่ารบกวน. อธิบายว่า ทำอนัตถพินาศให้เกิดครอบงำ ท่วมทับไว้.
คำว่า อุปัทวะนี้เป็นชื่อของหัวฝีคือราคะเป็นต้น. เพราะฉะนั้น แม้กามคุณเหล่านี้ ก็ชื่อว่าอุปัทวะ เพราะนำมาซึ่งความพินาศ
คือ การไม่รู้แจ้งพระนิพพานเป็นเหตุ และเพราะเป็นวัตถุที่ตั้งโดยรอบแห่งอุปัทวกรรมทุกชนิด.
ก็เพราะเหตุที่กามคุณเหล่านี้ ทำความกระสับกระส่ายเพราะกิเลสให้เกิด ทำความไม่มีโรคกล่าวคือศีล หรือความโลภให้เกิดขึ้น
ปล้นเอาความไม่มีโรคซึ่งเป็นไปตามปกติ ฉะนั้น กามคุณเหล่านั้นจึงชื่อว่าดุจโรค เพราะอรรถว่า ปล้นความไม่มีโรคนี้.

อนึ่ง
ชื่อว่า ดุจลูกศร เพราะอรรถว่า เข้าไปเรื่อย ๆ ในภายใน เพราะอรรถว่า เสียบเข้าในภายใน และ
                  เพราะอรรถว่า ถอนออกยาก.
ชื่อว่า เป็นภัย เพราะนำมาซึ่งภัยในปัจจุบันและภัยในภายหน้า.
ชื่อว่า เมตํ เพราะตัดบทออกเป็น เม เอตํ.

คำที่เหลือในคาถานี้ปรากฏชัดแล้ว.
แม้คำสรุปก็พึงทราบโดยนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
จบพรรณนาอีติคาถา

 

Sitemap 1 2 3 4 5 6 7 8 9